บทที่ 7


ไฟล์ข้อมูล คืออะไร
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไฟล์ข้อมูล
              สิ่งที่บรรจุข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งอาจหมายถึงโปรแกรมหรือข้อมูลที่เราต้องการเก็บไว้ด้วยกัน เมื่อเราต้องการค้นหาไฟล์ เราอ้างอิงด้วยชื่อไฟล์โดยไม่จำเป็นต้องทราบว่าไฟล์นั้นถูกเก็บไว้ในส่วนใดในดิสก์

ไดเร็กทอรี (Directory) หมายถึงอะไร
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Directory)
                หมายถึง แหล่งที่ใช้เก็บข้อมูล ซึ่งในเครื่องคอมพิวเตอร์หากมีระบบการจัดการข้อมูลที่ดีจัดเก็บโฟลเดอร์ให้เป็นระเบียบ จะทำให้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยในโฟลเดอร์สามารถที่จะสร้างโฟลเดอร์ย่อยๆ ได้ตามต้องการ เพื่อใช้ในการแบ่งเก็บไฟล์ข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่ ไม่ปะปนกัน

               
บอกคำสั่งที่ใช้ในการจัดการไฟล์ มา 5 คำสั่ง
         DIR (DIRECTORY) ดูชื่อแฟ้มข้อมูล, เนื้อที่บนแผ่นดิสก์, ชื่อแผ่นดิสก์ 
        TYPE แสดงเนื้อหาหรือข้อมูลในแฟ้มข้อมูลที่กำหนด 
        COPY ใช้คัดลอกแฟ้มข้อมูลหนึ่ง หรือหลายแฟ้มข้อมูลจากแฟ้มข้อมูลต้นทาง ไปยังแฟ้มข้อมูลปลายทาง
        REN (RENAME) เปลี่ยนชื่อแฟ้มข้อมูล (ข้อมูลข้างในแฟ้มข้อมูลยังเหมือนเดิม)
        DEL (DELETE) ลบแฟ้มข้อมูลออกจากแผ่นดิสก์

วิธีจัดเก็บข้อมูลของไฟล์ (Implementation File) มีกี่แบบ แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
      มี 3 แบบ คือ
        1.การจัดเก็บข้อมูลแบบต่อเนื่อง ( contiguous allocation)
        ข้อดี
        ง่ายและสะดวกในการจัดเก็บ เนื่องจากการจัดเก็บจะจัดเก็บเรียงต่อกันไปจึงไม่ต้องกังวลว่าบล็อกต่อไปจะเก็บตรงไหน OS จะบันทึกเฉพาะแอดเดรสบล็อกแรกและแอดเดรสบล็อกสุดท้ายของแต่ละไฟล์ก็เพียงพอสำหรับการค้นหาข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในไฟล์
        ข้อเสีย
        กรณีมีการแก้ไขข้อมูลเดิม แล้วการแก้ไขทำให้ขนาดของไฟล์มีขนาดใหญ่ขึ้น จึงจำเป็นต้องย้ายไฟล์ไปยังพื้นที่ใหม่ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะบรรจุไฟล์ที่แก้ไขแล้ว ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ต้องเสียเวลาเพิ่มขึ้นในการหาพื้นที่ใหม่

        2.การจัดเก็บข้อมูลแบบลิงค์ลิสต์ (Link List allocation)
        ข้อเสีย
        เสียเวลาในการค้นหาข้อมูลของไฟล์มากกว่าแบบต่อเนื่อง เนื่องจากแต่ละบล็อกอยู่กระจัดกระจายไปทั่วดิสก์

        3.ไอโหนด (I-nodes หรือ Index nodes)
         ไอโหนด (I-nodes หรือ Index node) ใช้ในระบบปฏิบัติการ UNIX โดยการสร้างตารางเล็กเรียกว่า “ไอโหนด” (I-node) ให้กับแต่ละไฟล์ ไอโหนดจะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไฟล์เอาไว้

FAT และ NTFS คืออะไร
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ NTFS


       NTFS ย่อมาจาก New Technology File System คือ ระบบไฟล์ที่ได้รับการพัฒนาโดย Microsoft ซึ่งระบบไฟล์แบบ NTFS ระบบไฟล์นี้ นำมาใช้ในระบบปฏิบัติการ Windows NT และใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดยได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง NTFS สามารถใช้กับ Partition ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่ากับ 2 ยกกำลัง 64 ไบท์ หรือ 16 ExaBytes การทำงานของ NTFS มีลักษณะที่แตกต่างจาก FAT อย่างสิ้นเชิง นั้นคือ NTFS จะสร้างไฟล์ขึ้นมาชุดหนึ่งที่ทำหน้าที่เก็บ Information ของแต่ละ Partition ไฟล์เหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ตอนที่ทำการ Format แต่ละ Partition ไฟล์เหล่านี้เรียกว่า MetaData Files 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ FAT ( File allocation Table )
      FAT ( File allocation Table )  เป็นระบบไฟล์ที่ใช้ในระบบปฏิบัติการในตระกูล Microsoft และเป็นระบบไฟล์ที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ระบบไฟล์ในตระกูลนี้มีลักษณะคือ เป็นการกำหนดหมายเลขให้กับทุก ๆ Cluster ในแต่ละ Partition แล้วทำการสร้างตารางที่มีจำนวนช่องตามจำนวน Cluster นั้น เพื่อเป็นการระบุสถานที่หรือ Cluster ที่ทำการเก็บข้อมูลของไฟล์แต่ละไฟล์ และมีตารางอีกตารางหนึ่งที่เรียกว่า Directory สำหรับเก็บข้อมูลรายละเอียดของไฟล์ เช่น Attribute ต่าง ๆ และ หมายเลข Cluster เริ่มต้นที่เก็บตัวข้อมูลจริง ๆ  

ในระบบปฏิบัติการต่อไปนี้ใช้ระบบ FAT หรือ NTFS (Dos, Windows, Unix, Linux)) 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Dos Unix
        Dos
        Unix          ใช้ในระบบ  FAT
        Linux
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ windows
            Windows   ใช้ในระบบ NTFS

บอกส่วนขยายนามสกุลของไฟล์มาอย่างน้อย 20 ไฟล์แล้วบอกว่าเป็นไฟล์อะไร
asp = Active Server Page ไฟล์ คือไฟล์เอกสาร asp สำหรับดูบนเว็บ คล้ายกับเอกสาร htm, html Text Editor ทั่วไป 
.avi = Video ไฟล์ คือไฟล์ภาพยนตร์ ภาพเคลื่อนไหว Windows Media Player,Quick Time, ACDsee เวอร์ชั่นใหม่ๆ 
.bak = Back up ไฟล์ คือไฟล์สำรองของโปรแกรมทั่วไป ขึ้นอยู่กับว่าสร้างโดยโปรแกรมอะไร
 .bat = Batch ไฟล์ คือ text ไฟล์ที่บรรจุชุดคำสั่งลงไป ทำงานโดยเรียกโปรแกรมอื่น ๆ 
.bmp = Bitmap ไฟล์ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เพื่อแสดงผลภาพกราฟฟิคโปรแกรมวินโดวส์ ไม่มีการ บีบอัด ไฟล์จึงมีลักษณะใหญ่ เป็นไฟล์ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในด้านการใช้งานมากนัก 
.cda = เป็นแทร็กเสียงดิจิตอลที่รูปแบบเหมือนกับไฟล์ Wave บรรจุไว้ในแผ่นซีดีเพลงด้วยรูปแบบ พิเศษเฉพาะ ซึ่งมันไม่ใช่ไฟล์ข้อมูลคอมพิวเตอร์อย่าง Wave หรือ MP3 คุณจึงไม่สามารถ ก๊อบปี้แทร็ก CD Audio เก็บไว้ในฮาร์ดิสก์ได้ 
.com = Execute ไฟล์ คือไฟล์โปรแกรมที่สามารถรันได้ ทำงานได้ตัวมันเอง
 .dat = ไฟล์ภาพยนตร์แผ่นจาก VCD หรืออาจเป็นไฟล์ของโปรแกรมอื่นๆ อีกด้วย Power DVD, Windows Media Player และ อื่นๆ อีกมาก .dbf = Database ไฟล์ คือไฟล์ฐานข้อมูล Dbase,Foxpro, Access,Excel 
.divx = เป็นไฟล์ avi ชนิดหนึ่ง แต่ไฟล์ DivX สามารถเล่นพร้อมกับเลือกแสดง Subtitle ได้หลาย ภาษาในการเล่นไฟล์ประเภทนี้ จะต้องติดตั้งโปรแกรมแสดง subtitle เพิ่มเติม เพื่อให้ subtitle ปรากฏไปพร้อม ๆ กับการรับชมภาพยนตร์ด้วย 
.doc = Document ไฟล์ คือไฟล์เอกสาร word MS Word, WordPAD .dwg = คือ drawing file ของโปรแกรม AutoCAD
 .exe = Execute ไฟล์ คือไฟล์โปรแกรมที่สามารถรันได้ ทำงานได้ตัวมันเอง
 .fla = เป็นไฟล์ Vector ของโปรแกรม Macromedia Flash ใช้ในการสร้างอนิเมชั่นบนเวบเพจ
 .fly = เป็นไฟล์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายบนเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอผ่านเว็บไซต์ แต่คุณภาพดีกว่า ไฟล์ 3gp 
.gif = ไฟล์ภาพที่สามารถแสดงเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ เหมาะกับการเก็บไฟล์รูปภาพขนาดเล็ก และมีจำนวนของสีน้อย มีขนาดไฟล์เล็ก .hqx = ไฟล์ที่แสดงผลในเครื่องMac 
.htm, html = เอกสาร Hypertext Markup Language สำหรับดูบน web site ทั่วๆ ไป Browser เช่น Netscape, IE, Opera และ Browser อื่นๆ รวมทั้งโปรแกรม Text Editor ทั่วไป 
.ini = INI ไฟล์ คือไฟล์ configuration ของ windows NotePad, Wordpad, Editor ทั่วไป 
.jpg, .Jpeg = ไฟล์ภาพในรูปแบบที่ถูกบีบอัดให์มีขนาดไฟล์เล็กลงมีความละเอียดในเกณฑ์ที่ดี เหมาะกับภาพถ่าย
.lnk = Link ไฟล์ ลิงค์ไฟล์ของ MS Windows MS Windows 
.log = Log ไฟล์ คือไฟล์ที่เก็บการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง NotePad, WordPad, Editor ทั่วไป 
.mid = MiDi ไฟล์ ไฟล์เพลงที่มีแต่เสียงดนตรี เป็นไฟล์ข้อมูลดนตรีที่ถูกบันทึก หรือโปรแกรมเอาไว้ เช่น เสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ตัวโน๊ต ความเร็วจังหวะ ฯลฯ สำหรับนำไปใช้กับอุปกรณ์ดนตรี เช่น ซาวนด์การ์ด หรือ เครื่องดนตรี, Winamp, Sonique, Windows Media Player และอื่นๆ 
.mov = ไฟลวิดีโอ ที่แสดงผลดวยโปรแกรมQuick Time 
.mp3 = MP3 ไฟล์ เป็นไฟล์เพลงประเภทหนึ่ง เป็นไฟล์เสียงที่มีพื้นฐานจากไฟล์ Wave แต่มีขนาด เล็กกว่าประมาณ 8-10 เท่า เนื่องจากข้อมูลในไฟล์ถูกบับอัดให้เล็กลงแต่ยังคงคุณภาพไว้ใกล้ เคียงต้นฉบับ โปรแกรมที่ใช้เปิดก็มี Winamp, Sonique, Windows Media Player และอื่นๆ
 .mp4 = MP4 ไฟล์ เป็นประเภทของไฟล์วีดีโอ เป็นไฟล์วีดีโอที่มีพื้นฐานจากไฟล์ Avi แต่มีขนาดเล็ก กว่า เนื่องจากข้อมูลในไฟล์ถูกบับอัดให้เล็กลงแต่ยังคงคุณภาพไว้ใกล้เคียงต้นฉบับ 
.ogg = OGG ไฟล์ เป็นไฟล์เพลงประเภทหนึ่ง ที่มีขนาดเล็กกว่า MP3 Winamp, Sonique, FreeAmp
 .pdf = PDF ไฟล์ เป็นไฟล์ขนาดเล็ก คุณภาพสูงจากค่าย Adobe ใช้ในการแสดงเอกสารในรูปแบบ ของกราฟฟิค ซึ่งจะต้องใช้ โปรแกรม Adobe Acrobat Reader ในการอ่าน
 .png = ไฟล์รูปภาพที่นิยมใช้สร้างเว็บไซต์เนื่องจากมีขนาดเล็ก และเหมาะกับภาพที่ต้องการให้มีความโปร่งใส 
.ppt = Powerpoint ไฟล์ เป็นไฟล์พรีเซ็นเทชั่น MS Powerpoint
 .prg = Program ไฟล์ เป็น Text ไฟล์ประเภทหนึ่ง NotePad, WordPad หรือ text editor ต่างๆ 
.psd = PSD ไฟล์ เป็นกราฟฟิคไฟล์ ของโปรแกรมตบแต่งรูปภาพ (Retuching) ยอดนิยม Adobe Photoshop
 .rar = ไฟล์ที่ถูกบีบอัดข้อมูลใช้โปรแกรม Winzip, Pkzip, Winrar ในการเปิด
 .ra = เป็นไฟล์เสียงสำหรับใช้กับโปรแกรม Real Player โดยเฉพาะ มีพื้นฐานมาจากไฟล์ Wave แต่ถูกบีบอัดให้เล็กลงด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ เพื่อใช้ในการรับส่งข้อมูลเสียง ทางอินเทอร์เน็ต เป็นหลัก

บอกข้อกำหนดในการตั้งชื่อไฟล์ ในระบบปฏิบัติการต่อไปนี้ (Dos, Windows, Unix, Linux)

การตั้งชื่อไฟล์ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับแอ็ดเดรส เพียงแค่ระบุชื่อและนามสกุลของไฟล์ให้ถูกต้องก็เพียงพอแล้ว - การกำหนดชื่อของไฟล์ ในแต่ละระบบปฏิบัติการมีความแตกต่างกันอยู่พอควร แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีข้อกำหนดที่ใกล้เคียงกัน เช่น ในระบบดอส (DOS) จะสามารถตั้งชื่อไฟล์ได้ไม่เกิน 8 ตัวและส่วนขยายได้อีก 3 ตัว ส่วนในระบบ Unix หรือ Linux จะสามารถตั้งได้ไม่เกิน 255 ตัว ในระบบ Unix หรือ Linux จะถือว่าตัวอักษรตัวใหญ่กับตัวเล็กเป็นคนละตัวกัน 
      ส่วน Dos, Window95, 98 windows NT, Windows 2000 และ Windows XP จะถือว่าเป็นตัวเดียวกัน

ความสัมพันธ์ของข้อมูล (Relationship) มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 1 ต่อ 1
1. ความสัมพันธ์แบบ หนึ่งต่อหนึ่ง ( One to one Relationships) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูล ของเอนทิตี้หนึ่งว่ามีความส ัมพันธ์กับข้อมูลในอีกเอนทิตี้หนึ่ง ในลักษณะ หนึ่ง ต่อ หนึ่ง หรือเขียนได้เป็น 1:1 แสดงว่าข้อมูลเพียงหนึ่งข้อมูลของเอนทิตี้แรกมีความสัมพันธ์กับข้อมูลในเอนทิตี้ที่สองเพียงข้อมูลเดียว หรือ นักศึกษาหนึ่งคนจะมีสูติบัตรเพียงใบเดียวเท่านั้น สูติบัตรหนึ่งใบก็เป็นของนักศึกษาได้เพียงคนเดียวเท่านั้นเช่นกัน
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หนึ่งต่อกลุ่ม
 2.ความสัมพันธ์แบบ หนึ่งต่อกลุ่ม ( One to many Relationships) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูล ของเอนทิตี้หนึ่งว่ามีความส ัมพันธ์กับข้อมูลในอีกเอนทิตี้หนึ่ง ในลักษณะ หนึ่ง ต่อ กลุ่ม หรือเขียนได้เป็น 1:N แสดงว่าข้อมูลเพียงหนึ่งข้อมูลของเอนทิตี้แรกมีความสัมพันธ์กับข้อมูลในเอนทิตี้ที่สองหลายข้อมูล เช่น หรือ ลูกค้าหนึ่งคนมีใบเสร็จได้หลายใบ เนื่องจากลูกค้าหนึ่งคนอาจมาซื้อสินค้าหลายครั้ง ใบเสร็จหนึ่งใบต้องเป็นของลูกค้าเพียงคนเดียวเท่านั้น 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กลุ่มต่อกลุ่ม
3.ความสัมพันธ์แบบ กลุ่มต่อกลุ่ม ( Many to Many Relationships) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูล ของเอนทิตี้หนึ่งว่ามีความส ัมพันธ์กับข้อมูลในอีกเอนทิตี้หนึ่ง ในลักษณะ กลุ่ม ต่อ กลุ่ม หรือเขียนได้เป็น N:M แสดงว่าข้อมูลเพียงหนึ่งข้อมูลของเอนทิตี้แรก มีความสัมพันธ์กับข้อมูลในเอนทิตี้ที่สองหลายข้อมูล และทำนองเดียวกัน ข้อมูลเพียงหนึ่งข้อมูลของเอนทิตี้ที่สองมีความสัมพันธ์ในทางกลับกันกับข้อมูลในเอนทิตี้ที่แรกหลายข้อมูล จากความสัมพันธ์ระหว่าง Orders และ Items เป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม และในทำนองเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่าง Items และ Orders ก็เป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่มด้วยเช่นกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ทั้งสองจึงเป็นแบบกลุ่มต่อกลุ่ม ( N:M) โดยมีความหมายดังต่อไปนี้คือ สินค้า 1 ชนิด หรือ 1 item จะถูกสั่งซื้อโดยปรากฏในใบสั่งซื้อหรือใบ orders ได้หลาย ๆ ใบ และในทำนองเดียวกัน ใบสั่งซื้อ 1 ใบ สามารถมีรายการสิ้นค้าหรือ items ได้หลาย ๆ รายการ หรือหลาย ๆ items ได้ หรือ นิสิตสามารถลงทะเบียนเรียนได้หลาย ๆ วิชาพร้อมกันในแต่ละครั้ง และในทางตรงกันข้าม ในแต่ละวิชา 1 วิชา จะประกอบด้วยนิสิตหลายคนมาลงทะเบียนในวิชานั้น

รูปแบบของระบบฐานข้อมูล มีอะไรบ้าง
รูปแบบของระบบฐานข้อมูล มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทคือ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ 
1. ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (RELATIONAL DATABASE) เป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบที่เป็นตาราง (Table) หรือเรียกว่า รีเลชั่น (RELATION) มีลักษณะเป็น 2 มิติ คือเป็นแถวและเป็นคอลัมน์ การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างตารางจะเชื่อมโยงโดยใช้แอททริบิวต์ (ATTRIBUTE) หรือคอลัมน์ที่เหมือนกันทั้งสองตารางเป็นตัวเชื่อมโยงข้อมูล เช่น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย
2. ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (NETWORK DATABASE) ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย จะเป็นการรวมระเบียนต่าง ๆ และความสัมพันธ์ระหว่างระเบียนแต่จะต่างกับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ คือ ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จะแฝงความสัมพันธ์เอาไว้ โดยระเบียนที่มีความสัมพันธ์กัน จะต้องมีค่าของข้อมูลในแอททริบิวต์ในแอททริบิวต์หนึ่งเหมือนกันแต่ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย จะแสดงความสัมพันธ์อย่างชัดเจน โดยแสดงไว้ในโครงสร้าง เช่น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น

3. ฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น (HIERARCHICAL DATABASE) ฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น เป็นโครงสร้างที่จัดเก็บข้อมูลในลักษณะความสัมพันธ์แบบ พ่อ – ลูก หรือเป็นโครงสร้างรูปแบบต้นไม้ TREE ข้อมูลที่จัดเก็บในที่นี้ คือ ระเบียน Record ซึ่งประกอบด้วยค่าของเขตข้อมูล Field ของเอนทิตี้หนึ่ง ๆ นั่นเอง




       



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทที่2

บทที่3